มาทำความรู้จัก Riskiest Assumption Test (RAT) กัน

science-testing

Science testing! — Photo by Glenn Carstens-Peters on Unsplash

Riskiest Assumption Test

ทดสอบสมมติฐานที่เสี่ยงที่สุดก่อนเริ่มสร้างจริง

คืออะไร?

Riskiest Assumption Test (RAT) คือแนวคิดที่ใช้ในการทดสอบ สมมติฐานที่อันตรายที่สุด หรือสิ่งที่ถ้าไม่จริงแล้วจะทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้

ต่างจาก MVP ที่เน้นสร้างของมาให้ใช้ได้ขั้นต่ำ RAT จะเน้น “ยังไม่ต้องสร้าง ถ้ายังไม่พิสูจน์” ว่าสิ่งที่คุณเชื่อมันจริง


ทำไม RAT ถึงสำคัญ?

เพราะ startup จำนวนมาก ตายเพราะเชื่อผิด
ตัวอย่างเช่น:

  • คิดว่าคนจะยอมจ่าย แต่จริง ๆ ไม่มีใครอยากจ่าย
  • คิดว่าปัญหานั้นใหญ่ แต่ลูกค้าไม่ได้รู้สึก
  • คิดว่าคู่แข่งยังไม่มี แต่จริง ๆ มีอยู่เต็มไปหมด

ตัวอย่างสมมติฐานเสี่ยง

สมมติฐาน ถ้าไม่จริงจะเกิดอะไรขึ้น
ลูกค้ายอมเสียเงินเพื่อให้สะดวกขึ้น ถ้าไม่จริง → ไม่มีใครยอมจ่าย
คนจะเปลี่ยนจากคู่แข่งมาใช้เรา ถ้าไม่จริง → เติบโตไม่ได้
ทีมสามารถพัฒนาฟีเจอร์นี้ได้ทันเวลา ถ้าไม่จริง → เสียโอกาส เสียเงิน

วิธีทำ RAT ใน 5 ขั้นตอน

  1. ลิสต์สมมติฐานทั้งหมด
    ทุกสิ่งที่คุณ “เชื่อว่า” จริง เช่น “ลูกค้าจะชอบ”, “พาร์ตเนอร์จะช่วยขาย”

  2. จัดอันดับตามความเสี่ยง
    ถ้าอันไหนผิดแล้วเจ๊ง → นั่นคือความเสี่ยงสูงสุด

  3. เลือกสมมติฐานที่เสี่ยงที่สุด
    อย่าเพิ่งสร้าง product จริงถ้ายังไม่พิสูจน์สิ่งนี้

  4. ออกแบบการทดสอบแบบ Lean
    เช่น: landing page, wireframe, โทรหา potential customer

  5. ลงมือทดสอบ และเก็บ feedback
    เน้นเร็ว ถูกจริง ไม่ต้องสวย


ตัวอย่างจริงของ RAT

ไอเดีย สมมติฐานที่เสี่ยงที่สุด วิธีทดสอบ RAT
แอปช่วยจองช่างแอร์ คนยอมจองช่างผ่านมือถือ ทำโฆษณาทดลอง พร้อมฟอร์มจองปลอม
ตลาดนัดอาหารกลางวันบริษัท มีคนซื้อพอจะทำกำไร ไปตั้งขาย 1 สัปดาห์เพื่อดูยอดจริง

สรุป

RAT = ทดสอบสมมติฐานที่ถ้าผิดแล้วเจ๊ง
อย่าเสียเวลาสร้างของ ถ้าสิ่งที่คุณเชื่อ ยังไม่ผ่านการทดสอบ

“Build to learn, not build to launch.”