Notion: แพลตฟอร์มจัดการงานและความรู้ฟรีสำหรับธุรกิจเริ่มต้น

Notion

Notion — Photo by Alvaro Reyes on Unsplash

Notion: แพลตฟอร์มจัดการงานและความรู้ฟรีสำหรับธุรกิจเริ่มต้น

จัดระเบียบข้อมูล สร้างระบบ และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือ All-in-One


1. ทำความเข้าใจ Notion

Notion คืออะไร?

  • นิยาม: แพลตฟอร์มจัดการงานและความรู้แบบ All-in-One ที่รวมความสามารถของเอกสาร ฐานข้อมูล โน้ต ปฏิทิน และเครื่องมือจัดการโปรเจกต์เข้าด้วยกัน
  • ความสามารถหลัก:
    • สร้างเอกสารที่มีโครงสร้างและเชื่อมโยงกัน
    • จัดการข้อมูลในรูปแบบฐานข้อมูล
    • สร้างระบบจัดการงานและโปรเจกต์
    • ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
    • แชร์และเผยแพร่ข้อมูลได้หลายรูปแบบ
  • ข้อดี: มีแพ็กเกจฟรีที่ครอบคลุมความต้องการพื้นฐาน ใช้งานง่าย และปรับแต่งได้สูง

ทำไมต้องใช้ Notion?

  • ความยืดหยุ่น: ปรับแต่งได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
  • ลดความซับซ้อน: รวมเครื่องมือหลายอย่างไว้ในที่เดียว ลดการสลับแอปพลิเคชัน
  • ทำงานร่วมกัน: หลายคนสามารถทำงานบนเอกสารเดียวกันได้พร้อมกัน
  • จัดระเบียบ: สร้างระบบจัดการความรู้ที่เป็นระเบียบและค้นหาง่าย
  • ประหยัด: เริ่มต้นใช้งานได้ฟรี ไม่ต้องลงทุนในหลายเครื่องมือ
  • เข้าถึงได้ทุกที่: ใช้งานได้ทั้งบนเว็บและแอปพลิเคชันมือถือ

2. เปรียบเทียบ Notion กับเครื่องมืออื่น

Notion vs Evernote

คุณสมบัติ Notion Evernote
ราคาเริ่มต้น ฟรี ฟรี (มีข้อจำกัด)
ฐานข้อมูล
การทำงานร่วมกัน ✓ (ไม่จำกัดในแพ็กเกจฟรี) จำกัด
การจัดโครงสร้าง ยืดหยุ่นสูง จำกัด
การแชร์เอกสาร ✓ (จำกัดในแพ็กเกจฟรี)
API
ขีดจำกัดการอัปโหลด 5MB ต่อไฟล์ (ฟรี) 25MB ต่อโน้ต (ฟรี)

Notion vs Trello

คุณสมบัติ Notion Trello
ราคาเริ่มต้น ฟรี ฟรี (มีข้อจำกัด)
มุมมองการทำงาน หลากหลาย เน้น Kanban
ฐานข้อมูล
เอกสารและวิกิ จำกัด
การทำงานร่วมกัน
Automations จำกัดในแพ็กเกจฟรี จำกัดในแพ็กเกจฟรี
จำนวนบอร์ด ไม่จำกัด 10 บอร์ด (ฟรี)

Notion vs Google Docs/Sheets

คุณสมบัติ Notion Google Docs/Sheets
ราคาเริ่มต้น ฟรี ฟรี
การรวมเอกสารและฐานข้อมูล
การทำงานร่วมกัน ดี ดีมาก
การจัดโครงสร้าง ยืดหยุ่นสูง แยกเป็นไฟล์
ความสามารถของฐานข้อมูล พื้นฐานถึงปานกลาง จำกัด (Sheets)
การทำงานออฟไลน์ จำกัด
การเชื่อมโยงระหว่างเอกสาร จำกัด

3. ฟีเจอร์ฟรีของ Notion

ข้อมูลแพ็กเกจฟรี

  • จำนวนบล็อก: ไม่จำกัด
  • จำนวนผู้ใช้: ไม่จำกัด (ในพื้นที่ส่วนตัว)
  • ผู้ใช้ที่เชิญได้: ไม่จำกัด
  • ขนาดไฟล์อัปโหลด: สูงสุด 5MB ต่อไฟล์
  • ประวัติการแก้ไข: 7 วัน
  • API Access:
  • การแชร์เอกสาร:
  • การทำงานร่วมกัน:

ประเภทบล็อกที่รองรับ

  • บล็อกพื้นฐาน:

    • Text (ข้อความ)
    • Heading (หัวข้อ)
    • To-do list (รายการสิ่งที่ต้องทำ)
    • Bulleted list (รายการแบบจุด)
    • Numbered list (รายการแบบตัวเลข)
    • Toggle list (รายการแบบเปิด/ปิด)
    • Quote (ข้อความอ้างอิง)
    • Divider (เส้นคั่น)
    • Link (ลิงก์)
    • Mention (การกล่าวถึง)
  • บล็อกมีเดีย:

    • Image (รูปภาพ)
    • Web bookmark (บุ๊กมาร์กเว็บ)
    • Video (วิดีโอ)
    • Audio (เสียง)
    • Code (โค้ด)
    • File (ไฟล์)
  • บล็อกขั้นสูง:

    • Table (ตาราง)
    • Database (ฐานข้อมูล)
    • Calendar (ปฏิทิน)
    • Board (กระดาน)
    • Gallery (แกลเลอรี)
    • List (รายการ)
    • Timeline (ไทม์ไลน์)
    • Embed (การฝังเนื้อหา)
    • Equation (สมการ)

มุมมองฐานข้อมูลที่รองรับ

  • Table view: มุมมองตารางแบบดั้งเดิม
  • Board view: มุมมองแบบ Kanban
  • List view: มุมมองรายการแบบเรียงลำดับ
  • Calendar view: แสดงข้อมูลในรูปแบบปฏิทิน
  • Gallery view: แสดงข้อมูลในรูปแบบรูปภาพ
  • Timeline view: แสดงข้อมูลในรูปแบบไทม์ไลน์

ความสามารถด้านการทำงานร่วมกัน

  • การแชร์เพจ: แชร์เพจหรือฐานข้อมูลกับผู้อื่น
  • การแสดงความคิดเห็น: แสดงความคิดเห็นบนบล็อกต่างๆ
  • การแก้ไขพร้อมกัน: หลายคนสามารถแก้ไขเอกสารพร้อมกันได้
  • การแจ้งเตือน: รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือความคิดเห็นใหม่
  • การกล่าวถึง: กล่าวถึงสมาชิกในทีมด้วย @ เพื่อดึงความสนใจ

4. การเริ่มต้นใช้งาน Notion

ขั้นตอนการสร้างบัญชีและเริ่มต้น

  1. สร้างบัญชี Notion

    • ไปที่ notion.so และคลิก “Sign up”
    • กรอกอีเมลและรหัสผ่าน หรือลงทะเบียนผ่าน Google, Apple หรือ SSO อื่นๆ
    • ยืนยันอีเมลของคุณ
  2. ตั้งค่าพื้นที่ทำงาน (Workspace)

    • ตั้งชื่อ Workspace ตามชื่อองค์กรหรือโปรเจกต์ของคุณ
    • เลือกไอคอนและสีที่เป็นเอกลักษณ์
    • เชิญสมาชิกในทีมเข้าร่วม Workspace (ถ้ามี)
  3. สำรวจหน้า Getting Started

    • Notion มีหน้าแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
    • ทดลองใช้บล็อกประเภทต่างๆ
    • ศึกษาตัวอย่างเทมเพลต
  4. สร้างเพจแรก

    • คลิก “+ New page” ที่เมนูด้านซ้าย
    • เลือกเริ่มจากเทมเพลตหรือสร้างใหม่จากศูนย์
    • ตั้งชื่อเพจให้สื่อความหมาย
  5. จัดโครงสร้างพื้นที่ทำงาน

    • สร้างเพจหลักสำหรับหมวดหมู่ต่างๆ
    • จัดระเบียบเพจด้วยการลากและวาง
    • ใช้ emoji เพื่อทำให้เพจต่างๆ แยกแยะได้ง่าย

การใช้งานเทมเพลต

Notion มีเทมเพลตมากมายที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว:

  1. เทมเพลตยอดนิยมสำหรับธุรกิจเริ่มต้น:

    • Project Management: จัดการโปรเจกต์และงาน
    • Meeting Notes: จดบันทึกการประชุม
    • Content Calendar: วางแผนและจัดการคอนเทนต์
    • Simple CRM: จัดการลูกค้าและการขาย
    • Team Wiki: รวบรวมความรู้และข้อมูลของทีม
    • OKRs & Goals: ติดตามเป้าหมายและความสำเร็จ
  2. วิธีใช้เทมเพลต:

    • ไปที่ “Templates” ในเมนูด้านซ้าย
    • เลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ
    • เลือกเทมเพลตที่ต้องการ
    • คลิก “Duplicate” เพื่อคัดลอกไปยัง Workspace ของคุณ
  3. การปรับแต่งเทมเพลต:

    • แก้ไขชื่อและโครงสร้างให้ตรงกับความต้องการ
    • เพิ่มหรือลบส่วนต่างๆ ตามความเหมาะสม
    • ปรับแต่งมุมมองฐานข้อมูลให้เหมาะกับการใช้งาน
    • ลบข้อมูลตัวอย่างและเพิ่มข้อมูลจริงของคุณ

5. การใช้งานฟีเจอร์หลักของ Notion

การสร้างและจัดการเพจ

  1. โครงสร้างเพจ:

    • เพจสามารถมีเพจย่อยได้ไม่จำกัด
    • สร้างลำดับชั้นของข้อมูลได้ตามต้องการ
    • ใช้ emoji และสีเพื่อจัดหมวดหมู่
  2. การจัดการเนื้อหา:

    • เพิ่มบล็อกโดยพิมพ์ “/” ตามด้วยชื่อบล็อก
    • ลากและวางบล็อกเพื่อจัดลำดับใหม่
    • ใช้ toggle lists เพื่อซ่อนเนื้อหาที่ยาว
  3. การใช้ Backlinks:

    • เชื่อมโยงระหว่างเพจด้วย “[[ชื่อเพจ]]”
    • ดูเพจที่ลิงก์มาที่เพจปัจจุบันได้
    • สร้างเครือข่ายความรู้ที่เชื่อมโยงกัน

การใช้งานฐานข้อมูล

  1. การสร้างฐานข้อมูล:

    • พิมพ์ “/” ตามด้วย “database”
    • เลือกประเภทมุมมองเริ่มต้น (Table, Board, List, Calendar, Gallery)
    • เพิ่มคอลัมน์ตามความต้องการ
  2. ประเภทคอลัมน์:

    • Text (ข้อความ)
    • Number (ตัวเลข)
    • Select (ตัวเลือกเดียว)
    • Multi-select (หลายตัวเลือก)
    • Date (วันที่)
    • Person (บุคคล)
    • Files & media (ไฟล์และสื่อ)
    • Checkbox (ช่องทำเครื่องหมาย)
    • URL (ลิงก์)
    • Email (อีเมล)
    • Phone (โทรศัพท์)
    • Formula (สูตรคำนวณ)
    • Relation (ความสัมพันธ์)
    • Rollup (สรุปข้อมูลจากความสัมพันธ์)
    • Created time (เวลาที่สร้าง)
    • Created by (ผู้สร้าง)
    • Last edited time (เวลาที่แก้ไขล่าสุด)
    • Last edited by (ผู้แก้ไขล่าสุด)
  3. การใช้มุมมองต่างๆ:

    • Table: มุมมองตารางพื้นฐาน
    • Board: มุมมองแบบ Kanban
    • List: มุมมองรายการแบบเรียงลำดับ
    • Calendar: แสดงข้อมูลในรูปแบบปฏิทิน
    • Gallery: แสดงข้อมูลในรูปแบบรูปภาพ
    • Timeline: แสดงข้อมูลในรูปแบบไทม์ไลน์
  4. การกรองและจัดเรียง:

    • สร้างมุมมองที่แสดงเฉพาะข้อมูลที่ต้องการ
    • กรองตามเงื่อนไขต่างๆ
    • จัดเรียงตามคอลัมน์ที่ต้องการ
    • บันทึกมุมมองที่ใช้บ่อยเพื่อเรียกใช้ซ้ำ

การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างฐานข้อมูล

  1. สร้างคอลัมน์ Relation:

    • เพิ่มคอลัมน์ใหม่ประเภท “Relation”
    • เลือกฐานข้อมูลที่ต้องการเชื่อมโยง
    • กำหนดความสัมพันธ์ (one-to-one, one-to-many)
  2. ตัวอย่างการเชื่อมโยง:

    • ฐานข้อมูล “Projects” เชื่อมโยงกับ “Tasks”
    • ฐานข้อมูล “Customers” เชื่อมโยงกับ “Orders”
    • ฐานข้อมูล “Products” เชื่อมโยงกับ “Categories”
  3. การใช้ Rollup:

    • สรุปข้อมูลจากฐานข้อมูลที่เชื่อมโยง
    • เช่น นับจำนวนงานในโปรเจกต์
    • หรือคำนวณมูลค่ารวมของคำสั่งซื้อ
  4. การใช้ Formula:

    // คำนวณความคืบหน้าของโปรเจกต์
    prop("Tasks Completed") / prop("Total Tasks") * 100 + "%"
    
    // ตรวจสอบสถานะงาน
    if(prop("Due Date") < now(), "Overdue", "On Track")
    

6. การใช้ Notion สำหรับธุรกิจเริ่มต้น

การจัดการโปรเจกต์

  1. สร้างระบบจัดการโปรเจกต์:

    • ใช้เทมเพลต Project Management
    • ปรับแต่งสถานะและขั้นตอนตามกระบวนการของคุณ
    • เพิ่มมุมมอง Board สำหรับ Kanban และ Calendar สำหรับกำหนดการ
  2. ติดตามงานย่อย:

    • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างโปรเจกต์และงานย่อย
    • ใช้ Rollup เพื่อติดตามความคืบหน้าโดยรวม
    • ตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับงานที่ใกล้ถึงกำหนด
  3. ตัวอย่างโครงสร้าง:

    - โปรเจกต์ (ฐานข้อมูล)
      - ชื่อโปรเจกต์
      - สถานะ (To Do, In Progress, Done)
      - วันเริ่มต้น
      - วันสิ้นสุด
      - ผู้รับผิดชอบ
      - ความสำคัญ
      - งานย่อย (Relation)
    
    - งานย่อย (ฐานข้อมูล)
      - ชื่องาน
      - สถานะ
      - กำหนดส่ง
      - ผู้รับผิดชอบ
      - โปรเจกต์ (Relation)
    

การสร้าง Knowledge Base

  1. จัดระเบียบความรู้องค์กร:

    • สร้างเพจหลักสำหรับหมวดหมู่ต่างๆ
    • ใช้ toggle lists เพื่อซ่อนเนื้อหาที่ยาว
    • ใช้ emoji เพื่อทำให้หัวข้อต่างๆ แยกแยะได้ง่าย
  2. สร้างคู่มือและกระบวนการ:

    • บันทึกขั้นตอนการทำงานที่ใช้ประจำ
    • สร้าง templates สำหรับเอกสารที่ใช้บ่อย
    • ใช้ callout blocks เพื่อเน้นข้อมูลสำคัญ
  3. ตัวอย่างโครงสร้าง:

    - 📚 Knowledge Base
      - 🏢 เกี่ยวกับบริษัท
        - วิสัยทัศน์และพันธกิจ
        - โครงสร้างองค์กร
      - 💼 กระบวนการทำงาน
        - การขาย
        - การตลาด
        - การพัฒนาผลิตภัณฑ์
      - 🛠️ คู่มือการใช้งานระบบ
      - 📝 เทมเพลตเอกสาร
    

การจัดการลูกค้า (CRM)

  1. สร้าง CRM อย่างง่าย:

    • ใช้ฐานข้อมูลสำหรับเก็บข้อมูลลูกค้า
    • สร้างมุมมอง Board สำหรับติดตามสถานะการขาย
    • เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลโปรเจกต์หรือคำสั่งซื้อ
  2. ติดตามการติดต่อกับลูกค้า:

    • บันทึกประวัติการติดต่อ
    • ตั้งการแจ้งเตือนสำหรับการติดตามผล
    • ใช้ formulas เพื่อคำนวณมูลค่าลูกค้า
  3. ตัวอย่างโครงสร้าง:

    - ลูกค้า (ฐานข้อมูล)
      - ชื่อบริษัท/บุคคล
      - ข้อมูลติดต่อ
      - สถานะ (Lead, Prospect, Customer, Churned)
      - มูลค่าการซื้อรวม
      - วันที่ติดต่อล่าสุด
      - หมายเหตุ
    
    - การติดต่อ (ฐานข้อมูล)
      - ลูกค้า (Relation)
      - วันที่
      - ประเภท (อีเมล, โทรศัพท์, ประชุม)
      - รายละเอียด
      - ผลลัพธ์
      - ขั้นตอนต่อไป
    

7. เทคนิคการใช้งาน Notion ขั้นสูง

การใช้ Formula

  1. พื้นฐานการใช้ Formula:

    • ใช้ในคอลัมน์ประเภท Formula
    • อ้างอิงคอลัมน์อื่นด้วย prop(“ชื่อคอลัมน์”)
    • รองรับการคำนวณและการจัดการข้อความ
  2. ตัวอย่าง Formulas:

    • คำนวณวันที่เหลือ: dateBetween(now(), prop("Due Date"), "days")
    • สถานะตามกำหนดส่ง: if(prop("Due Date") < now(), "Overdue", "On Track")
    • รวมชื่อ-นามสกุล: prop("First Name") + " " + prop("Last Name")
    • คำนวณภาษี: prop("Price") * 0.07
  3. ฟังก์ชันที่มีประโยชน์:

    • format(): จัดรูปแบบตัวเลขหรือวันที่
    • dateAdd(): เพิ่มวัน/เดือน/ปีให้กับวันที่
    • contains(): ตรวจสอบว่าข้อความมีคำที่ต้องการหรือไม่
    • slice(): ตัดส่วนของข้อความ
    • toNumber(): แปลงข้อความเป็นตัวเลข

การใช้ Templates

  1. Template Buttons:

    • เพิ่มปุ่มสำหรับสร้างเนื้อหาที่ใช้บ่อย
    • ประหยัดเวลาในการสร้างเนื้อหาซ้ำๆ
    • ช่วยให้ข้อมูลมีรูปแบบสอดคล้องกัน
  2. วิธีสร้าง Template Button:

    • พิมพ์ “/” ตามด้วย “template”
    • สร้างเนื้อหาที่ต้องการใช้เป็นเทมเพลต
    • ตั้งชื่อปุ่มให้สื่อความหมาย
  3. ตัวอย่างการใช้งาน:

    • เทมเพลตสำหรับบันทึกการประชุม
    • เทมเพลตสำหรับรายงานความคืบหน้า
    • เทมเพลตสำหรับบันทึกไอเดียใหม่

การใช้ Linked Databases

  1. ประโยชน์ของ Linked Databases:

    • แสดงฐานข้อมูลเดียวกันในหลายเพจ
    • กำหนดมุมมอง การกรอง และการจัดเรียงที่แตกต่างกัน
    • ข้อมูลอัพเดทอัตโนมัติทุกที่
  2. วิธีสร้าง Linked Database:

    • พิมพ์ “/” ตามด้วย “linked database”
    • เลือกฐานข้อมูลที่ต้องการเชื่อมโยง
    • กำหนดมุมมอง การกรอง และการจัดเรียง
  3. ตัวอย่างการใช้งาน:

    • แสดงงานที่ต้องทำวันนี้ในหน้า Dashboard
    • แสดงลูกค้าที่ต้องติดตามในหน้ารายงานการขาย
    • แสดงโปรเจกต์ที่กำลังดำเนินการในหน้าสรุปสถานะ

8. การใช้ Notion สำหรับการทำงานร่วมกัน

การแชร์และการอนุญาต

  1. ระดับการอนุญาต:

    • Full access: สามารถแก้ไข เชิญผู้อื่น และเปลี่ยนการอนุญาต
    • Can edit: สามารถแก้ไขเนื้อหาได้
    • Can comment: สามารถดูและแสดงความคิดเห็นได้
    • Can view: สามารถดูเท่านั้น
  2. วิธีแชร์เพจ:

    • คลิกปุ่ม “Share” ที่มุมขวาบน
    • ใส่อีเมลของผู้ที่ต้องการแชร์
    • เลือกระดับการอนุญาต
    • เปิดใช้งาน “Allow editing” หากต้องการให้แก้ไขได้
  3. การแชร์กับบุคคลภายนอก:

    • สร้างลิงก์แชร์ (Share link)
    • กำหนดระดับการอนุญาตสำหรับลิงก์
    • ตั้งค่าวันหมดอายุของลิงก์ (ถ้าต้องการ)

การแสดงความคิดเห็นและการติดตาม

  1. การแสดงความคิดเห็น:

    • เลือกข้อความหรือบล็อกที่ต้องการแสดงความคิดเห็น
    • คลิกไอคอนความคิดเห็นที่ปรากฏ
    • พิมพ์ความคิดเห็นและกด Enter
  2. การกล่าวถึงผู้อื่น:

    • พิมพ์ @ ตามด้วยชื่อบุคคลที่ต้องการกล่าวถึง
    • บุคคลนั้นจะได้รับการแจ้งเตือน
    • ใช้ @everyone เพื่อแจ้งเตือนทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าถึง
  3. การติดตามการเปลี่ยนแปลง:

    • เปิดประวัติการแก้ไขเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
    • ตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับเพจหรือฐานข้อมูลที่สำคัญ
    • ใช้ “Resolve” เพื่อจัดการความคิดเห็นที่ได้ดำเนินการแล้ว

การจัดการทีมในแพ็กเกจฟรี

  1. ข้อจำกัดของแพ็กเกจฟรี:

    • ไม่มี Workspace สำหรับทีมอย่างเป็นทางการ
    • แต่สามารถเชิญผู้ใช้ไม่จำกัดเข้าร่วมเพจหรือฐานข้อมูล
  2. เทคนิคการทำงานเป็นทีม:

    • สร้างเพจหลักสำหรับทีม
    • จัดระเบียบเนื้อหาด้วยเพจย่อย
    • ใช้ mentions เพื่อมอบหมายงาน
    • สร้างฐานข้อมูลสำหรับติดตามงาน
  3. การสร้างระบบการทำงานร่วมกัน:

    • กำหนดกฎการใช้งานและการจัดระเบียบ
    • สร้างคู่มือการใช้งาน Notion สำหรับทีม
    • จัดทำเทมเพลตมาตรฐานสำหรับเอกสารที่ใช้บ่อย

9. การใช้ Notion สำหรับการจัดการเนื้อหา

การวางแผนและจัดการคอนเทนต์

  1. สร้าง Content Calendar:

    • ใช้ฐานข้อมูลพร้อมมุมมอง Calendar
    • กำหนดสถานะ (Idea, In Progress, Review, Published)
    • ติดตามช่องทางการเผยแพร่และผลตอบรับ
  2. จัดการกระบวนการผลิตคอนเทนต์:

    • กำหนดขั้นตอนการทำงาน (Workflow)
    • มอบหมายงานให้สมาชิกในทีม
    • ติดตามความคืบหน้าด้วยมุมมอง Board
  3. ตัวอย่างโครงสร้าง:

    - คอนเทนต์ (ฐานข้อมูล)
      - ชื่อเรื่อง
      - ประเภท (บทความ, โซเชียลมีเดีย, อีเมล)
      - สถานะ
      - วันที่กำหนดเผยแพร่
      - ผู้รับผิดชอบ
      - แพลตฟอร์ม
      - คีย์เวิร์ด
      - ลิงก์ไฟล์ต้นฉบับ
    

การสร้างเอกสารที่มีประสิทธิภาพ

  1. การจัดโครงสร้างเอกสาร:

    • ใช้หัวข้อและหัวข้อย่อยเพื่อจัดระเบียบ
    • ใช้ toggle lists สำหรับเนื้อหาที่ยาว
    • ใช้ callout blocks เพื่อเน้นข้อมูลสำคัญ
  2. การเพิ่มมีเดีย:

    • แทรกรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์
    • ฝังเนื้อหาจากแหล่งภายนอก (YouTube, Figma, Google Maps)
    • ใช้ gallery blocks เพื่อแสดงรูปภาพหลายรูป
  3. การสร้างเอกสารแบบโต้ตอบ:

    • ใช้ toggle lists เพื่อซ่อนและแสดงเนื้อหา
    • สร้าง table of contents อัตโนมัติ
    • ใช้ buttons เพื่อนำทางไปยังส่วนต่างๆ ของเอกสาร

การเผยแพร่เนื้อหาสู่ภายนอก

  1. การสร้าง Public Page:

    • เปิดเพจที่ต้องการเผยแพร่
    • คลิก “Share” และเปิด “Share to web”
    • คัดลอกลิงก์เพื่อแชร์กับบุคคลภายนอก
  2. การใช้ Notion เป็นเว็บไซต์อย่างง่าย:

    • สร้างโครงสร้างเพจที่เหมาะสม
    • ปรับแต่งการแสดงผลด้วย emoji และรูปภาพ
    • แชร์ลิงก์หลักเป็น URL ของเว็บไซต์
  3. ข้อจำกัดของ Public Pages:

    • ไม่สามารถใช้โดเมนเอง (ในแพ็กเกจฟรี)
    • ไม่มีการวิเคราะห์ผู้เข้าชม
    • ผู้เข้าชมไม่สามารถแก้ไขหรือแสดงความคิดเห็นได้

10. กรณีศึกษา: การใช้งานจริงของ Startup

กรณีศึกษา 1: บริษัทซอฟต์แวร์เริ่มต้น

  • ความท้าทาย: Startup ด้านซอฟต์แวร์ต้องการระบบจัดการโปรเจกต์ เอกสาร และความรู้ในที่เดียว
  • การใช้ Notion:
    • สร้าง Product Roadmap ด้วยฐานข้อมูลและมุมมอง Timeline
    • จัดการ User Stories และ Bugs ด้วยฐานข้อมูลและมุมมอง Board
    • สร้าง Technical Documentation สำหรับทีม
    • รวบรวม User Feedback ในฐานข้อมูลเดียว
  • ผลลัพธ์:
    • ลดการใช้เครื่องมือจาก 5 เหลือ 1
    • ประหยัดค่าใช้จ่ายซอฟต์แวร์ได้ 80%
    • ทีมมีความเข้าใจตรงกันและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

กรณีศึกษา 2: ฟรีแลนซ์และธุรกิจเจ้าของคนเดียว

  • ความท้าทาย: ฟรีแลนซ์ต้องการระบบจัดการลูกค้า โปรเจกต์ และการเงินอย่างง่าย
  • การใช้ Notion:
    • สร้าง CRM อย่างง่ายเพื่อติดตามลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจ
    • จัดการโปรเจกต์และกำหนดเวลาส่งมอบงาน
    • ติดตามรายรับ-รายจ่ายและใบแจ้งหนี้
    • สร้างพอร์ตโฟลิโอผลงานสำหรับแสดงลูกค้า
  • ผลลัพธ์:
    • ประหยัดเวลาในการจัดการงานประจำวัน 30%
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับซอฟต์แวร์หลายตัว
    • มีระบบที่เป็นระเบียบและมืออาชีพมากขึ้น

กรณีศึกษา 3: ธุรกิจ E-commerce เริ่มต้น

  • ความท้าทาย: ธุรกิจ E-commerce ต้องการระบบจัดการสินค้า การตลาด และการบริการลูกค้า
  • การใช้ Notion:
    • สร้างฐานข้อมูลสินค้าพร้อมรายละเอียดและรูปภาพ
    • วางแผนการตลาดและโปรโมชันด้วย Content Calendar
    • ติดตามคำสั่งซื้อและสถานะการจัดส่ง
    • จัดการคำถามและปัญหาจากลูกค้า
  • ผลลัพธ์:
    • ลดความผิดพลาดในการจัดการสต็อกลง 50%
    • เพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองลูกค้า
    • สามารถขยายธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนในระบบราคาแพง

11. เทคนิคการใช้ Notion ให้มีประสิทธิภาพ

1. ใช้ Keyboard Shortcuts

Notion มีคีย์ลัดมากมายที่ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น:

  • / (slash): เปิดเมนูบล็อก
  • Ctrl/Cmd + Shift + L: เปิด/ปิดโหมดมืด
  • Ctrl/Cmd + P: ค้นหาเพจอย่างรวดเร็ว
  • Ctrl/Cmd + [ or ]: ย้อนกลับหรือไปข้างหน้า
  • Ctrl/Cmd + Shift + H: เปิดประวัติการแก้ไข
  • Ctrl/Cmd + Shift + M: แสดงความคิดเห็น
  • Esc: ยกเลิกการแก้ไขหรือปิดเมนู

2. จัดระเบียบด้วย Emoji

  • ใช้ emoji นำหน้าชื่อเพจเพื่อจัดหมวดหมู่
  • สร้างระบบสีด้วย emoji เพื่อระบุความสำคัญหรือสถานะ
  • ตัวอย่างการใช้:
    • 📝 สำหรับเอกสาร
    • 📊 สำหรับรายงาน
    • 📅 สำหรับปฏิทินและกำหนดการ
    • 🚀 สำหรับโปรเจกต์
    • ✅ สำหรับรายการสิ่งที่ต้องทำ

3. ใช้ Web Clipper

  • ติดตั้ง Notion Web Clipper บนเบราว์เซอร์
  • บันทึกเว็บเพจ บทความ และลิงก์ที่น่าสนใจ
  • จัดระเบียบเนื้อหาที่บันทึกด้วยฐานข้อมูล
  • สร้างระบบจัดเก็บความรู้ส่วนตัวหรือทีม

4. ใช้ Widgets และ Embeds

  • ฝัง Google Calendar เพื่อดูกำหนดการ
  • ฝัง Figma เพื่อดูงานออกแบบ
  • ฝัง Google Maps สำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
  • ฝัง Typeform หรือ Google Forms สำหรับแบบสอบถาม
  • ฝัง Miro หรือ FigJam สำหรับ Whiteboard

5. สร้าง Dashboard

  • สร้างหน้า Dashboard เป็นจุดเริ่มต้นการทำงาน
  • รวม Linked Databases ที่แสดงข้อมูลสำคัญ
  • ใช้ callout blocks เพื่อเน้นข้อมูลสำคัญ
  • เพิ่มลิงก์ด่วนไปยังเพจที่ใช้งานบ่อย

12. ข้อจำกัดของ Notion ฟรีและการอัพเกรด

ข้อจำกัดของแพ็กเกจฟรี

  • ขนาดไฟล์อัปโหลด: สูงสุด 5MB ต่อไฟล์
  • ประวัติการแก้ไข: เก็บเพียง 7 วัน
  • ผู้เยี่ยมชม (Guests): จำกัดที่ 10 คนต่อ Workspace
  • API: มีข้อจำกัดในการเรียกใช้
  • ไม่มี Workspace สำหรับทีมอย่างเป็นทางการ
  • ไม่มีการจัดการสิทธิ์ขั้นสูง
  • ไม่มี SAML SSO

เมื่อไรควรพิจารณาแพ็กเกจ Paid

  1. ปริมาณไฟล์:

    • ต้องอัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่กว่า 5MB
    • ต้องการเก็บประวัติการแก้ไขมากกว่า 7 วัน
  2. ความต้องการของทีม:

    • ต้องการ Workspace สำหรับทีมอย่างเป็นทางการ
    • ต้องการจัดการสิทธิ์ขั้นสูง
    • ต้องการเชิญผู้เยี่ยมชมมากกว่า 10 คน
  3. ฟีเจอร์ขั้นสูง:

    • ต้องการใช้ API อย่างเต็มประสิทธิภาพ
    • ต้องการ SAML SSO สำหรับการยืนยันตัวตน
    • ต้องการ Audit log สำหรับการตรวจสอบ

ทางเลือกอื่นๆ สำหรับธุรกิจเริ่มต้น

  • Notion Personal Pro: $4/เดือน สำหรับผู้ใช้คนเดียวที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม
  • Notion Free + เครื่องมือเสริมอื่นๆ: ใช้ Notion ฟรีร่วมกับเครื่องมือฟรีอื่นๆ เช่น Google Drive, Trello ฟรี
  • Open Source Alternatives: เช่น AppFlowy, AFFiNE (ยังอยู่ในช่วงพัฒนา)

13. การเชื่อมต่อ Notion กับเครื่องมืออื่น

การใช้ Notion API (ฟรี)

  1. ความสามารถของ API:

    • อ่านและเขียนข้อมูลใน Notion
    • สร้างและอัพเดทเพจและฐานข้อมูล
    • ดึงข้อมูลจาก Notion ไปใช้ในแอปพลิเคชันอื่น
  2. ตัวอย่างการใช้งาน:

    • สร้างฟอร์มบนเว็บไซต์ที่ส่งข้อมูลไปยัง Notion
    • ดึงข้อมูลจาก Notion มาแสดงบนเว็บไซต์
    • อัพเดทฐานข้อมูลอัตโนมัติจากแหล่งข้อมูลภายนอก
  3. ข้อจำกัดในแพ็กเกจฟรี:

    • จำนวนการเรียกใช้ API มีการจำกัด
    • ต้องสร้าง Integration ก่อนใช้งาน
    • ต้องเชื่อมต่อ Integration กับเพจที่ต้องการใช้งาน

การเชื่อมต่อผ่าน Zapier และ Integromat

  1. การเชื่อมต่อกับ Zapier (แพ็กเกจฟรี):

    • เชื่อมต่อ Notion กับแอปอื่นๆ มากกว่า 3,000 แอป
    • สร้าง Zaps อัตโนมัติได้ 100 ครั้งต่อเดือน
    • จำกัด 5 Zaps ในแพ็กเกจฟรี
  2. ตัวอย่าง Zaps ที่มีประโยชน์:

    • เพิ่มรายการใน Notion เมื่อมีอีเมลใหม่ใน Gmail
    • สร้างงานใน Notion เมื่อมีการตอบแบบฟอร์ม Google Forms
    • แจ้งเตือนใน Slack เมื่อมีการอัพเดทฐานข้อมูลใน Notion
  3. การเชื่อมต่อกับ Integromat (Make):

    • ทางเลือกอื่นสำหรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน
    • มีแพ็กเกจฟรีที่อนุญาตให้ทำ 1,000 operations ต่อเดือน
    • สร้าง workflows ที่ซับซ้อนได้มากกว่า Zapier

การเชื่อมต่อกับ Google Workspace

  1. การฝัง Google Docs:

    • แทรก Google Docs, Sheets, หรือ Slides ใน Notion
    • แก้ไขเอกสาร Google โดยตรงจาก Notion
    • ข้อมูลอัพเดทอัตโนมัติทั้งสองทาง
  2. การฝัง Google Calendar:

    • แทรกปฏิทิน Google ใน Notion
    • ดูกำหนดการและนัดหมายโดยไม่ต้องออกจาก Notion
    • ใช้ร่วมกับฐานข้อมูลกิจกรรมใน Notion
  3. การอัพโหลดไฟล์จาก Google Drive:

    • ลิงก์ไฟล์จาก Google Drive ใน Notion
    • ประหยัดพื้นที่เก็บไฟล์ใน Notion
    • แชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ที่เกินขีดจำกัด 5MB

14. การใช้ Notion เป็นเว็บไซต์ฟรี

การสร้างเว็บไซต์ด้วย Notion

  1. ประเภทเว็บไซต์ที่สร้างได้:

    • เว็บไซต์ส่วนตัวหรือพอร์ตโฟลิโอ
    • เว็บไซต์บริษัทขนาดเล็ก
    • บล็อกหรือเว็บไซต์คอนเทนต์
    • เอกสารประกอบการใช้งานผลิตภัณฑ์
    • Landing page อย่างง่าย
  2. ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์:

    • ออกแบบและสร้างเพจใน Notion
    • จัดโครงสร้างเนื้อหาให้เหมาะสม
    • ปรับแต่งการแสดงผลด้วย emoji, รูปภาพ, และการจัดรูปแบบ
    • คลิก “Share” และเปิด “Share to web”
    • คัดลอกลิงก์เพื่อแชร์กับผู้อื่น
  3. เทคนิคการออกแบบ:

    • ใช้ cover image สำหรับหน้าหลัก
    • สร้างเมนูนำทางด้วย toggle lists หรือ linked databases
    • ใช้ gallery view สำหรับแสดงผลงานหรือสินค้า
    • ใช้ callout blocks เพื่อเน้นข้อมูลสำคัญ

ข้อดีและข้อจำกัด

  1. ข้อดี:

    • ไม่มีค่าใช้จ่าย
    • ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
    • อัพเดทเนื้อหาได้ง่าย
    • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย (ฐานข้อมูล, แกลเลอรี, ฯลฯ)
    • โหลดเร็วและรองรับการแสดงผลบนมือถือ
  2. ข้อจำกัด:

    • ไม่สามารถใช้โดเมนเอง (ในแพ็กเกจฟรี)
    • ไม่มีการวิเคราะห์ผู้เข้าชม
    • ความสามารถในการปรับแต่ง CSS จำกัด
    • ไม่มีฟอร์มสำหรับรับข้อมูลโดยตรง
    • SEO จำกัด

ตัวอย่างเว็บไซต์ที่สร้างด้วย Notion

  1. พอร์ตโฟลิโอนักออกแบบ:

    • แสดงผลงานในรูปแบบ Gallery
    • มีหน้าประวัติและทักษะ
    • มีช่องทางการติดต่อ
  2. เว็บไซต์สตาร์ทอัพขนาดเล็ก:

    • หน้าหลักแนะนำผลิตภัณฑ์
    • หน้า FAQ สำหรับคำถามที่พบบ่อย
    • หน้าทีมงานและประวัติบริษัท
  3. เอกสารประกอบการใช้งานผลิตภัณฑ์:

    • คู่มือการใช้งานที่จัดหมวดหมู่อย่างดี
    • วิดีโอสอนการใช้งาน
    • คำถามที่พบบ่อยและการแก้ไขปัญหา

15. สรุป: ทำไม Notion ถึงเหมาะกับธุรกิจเริ่มต้น

  1. ประหยัดต้นทุน
    ฟรีสำหรับการใช้งานพื้นฐาน ทดแทนเครื่องมือหลายอย่างในที่เดียว

  2. ความยืดหยุ่น
    ปรับแต่งได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องเขียนโค้ด เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ

  3. ง่ายต่อการใช้งาน
    อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะทางเทคนิคสูง

  4. ทำงานร่วมกัน
    ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ แม้จะใช้แพ็กเกจฟรี

  5. รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว
    ลดความซับซ้อนในการใช้หลายเครื่องมือ ทำให้ข้อมูลอยู่ในที่เดียวกัน

“Notion เป็นเครื่องมือที่ลงตัวสำหรับธุรกิจเริ่มต้นที่ต้องการระบบที่ยืดหยุ่น ใช้งานง่าย และประหยัดต้นทุน โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเรียนรู้เครื่องมือที่ซับซ้อนหรือการจัดการหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน”


16. แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม

เอกสารและบทความ:

คอมมูนิตี้:

เทมเพลตและทรัพยากร:

เคล็ดลับ: Notion มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ติดตาม Notion Blog และ Twitter เพื่อไม่พลาดฟีเจอร์ล่าสุดที่อาจช่วยให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น